http://www.kumanthongsiam.com
    สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 24/05/2008
ปรับปรุง 10/07/2021
สถิติผู้เข้าชม23,993,281
Page Views33,430,630
Menu
หน้าแรก
รวมรูปภาพ
เว็บบอร์ด
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 

 


ว่าด้วยเรื่องของ\\\

(อ่าน 749/ ตอบ 6)

อัศม์เดช

ในโลกยุคปัจจุบันที่เราเห็นตำหนักร่างทรงมากมายเหล่านั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ไหนเป็นร่างทรงที่องค์เทพยดาท่านเลือกที่จะใช้ร่างจริง ๆ ลักษณะของร่างทรงจอมปลอมคือ


1. มักจะพูดชักจูงจิตใจให้หลงในสรรพวิทยาเกินจริง  2. ให้สังเกตุคนที่ดูแล้วมีฐานะ คนเหล่านั้นจะถูกทักว่ามีองค์ทุกคน (เห็นมาเย๊อะมาก แข่งกันเลย มาสามสี่คนมีองค์กันหมด แหมเกิดมาพร้อมบุญกุศลแต่คนจนนี่องค์ไม่เลือกประทับ แปลกจัง) 3. แนะให้หาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายก่ายกอง (ทั้ง ๆ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประเสริฐที่สุดเดินผ่านทุกวันไม่เคยไหว้ นั่นคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระเจ้าอยู่หัวของเรานี่เอง) 4. การทำนายไม่ต่างกับหมอดูทั่วไป ชักจูงใจจนถึงที่สุดเลย ตามสูตรผมเรียกว่าแทงผิดแทงถูก แทง ๆ มันเข้าไปเดี๋ยวลงหลุมเอง คนศรัทธาอยู่แล้วพอเข้าจุดหน่อยก็งมงายไม่ลืมหูลืมตา 5. ชักจูงให้เช่าบูชาแต่เครื่องบูชา องค์เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่จำเป็น (ตอนเกิดมาถืออะไรมาด้วยหรือไงหนอ ไม่เข้าใจ)


ปัจจุบันตำหนักเหล่านี้เปิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในอาคาร นอกอาคาร ตามบ้านคนทรงเจ้าต่าง ๆ ถามว่า คนเหล่านั้นได้กุศลตรงที่ชักจูงจิตใจคน ให้ทำความดี แต่ได้บาปตรงที่หลอกลวงประชาชน ผิดกับ \"เจ้าเข้าทรง\" ซึ่งบอกได้เลยว่ามีน้อยมาก เทพบางองค์เลือกร่างทรงไว้เพียงคนเดียวก็มี บางองค์เลือกร่างทรงไว้หลายคน แต่การที่จะประทับร่างพร้อมกันนั้น ต้องเป็นเวลาเดียวกัน ความเชื่อมโยงที่ถูกต้องเท่านั้นถึงทำได้


ประสบการณ์ที่เคยพบคือ เคยไปงานร่างทรง ที่ประมาณว่า ร่างทรงองค์เจ้ามาชุมนุมกันเพื่อจัดงานเลี้ยงรวมร่างทรงทั้งหลายในกลุ่มตนเอง จะผลัดกันเป็นเจ้าภาพไปเรื่อย ๆ เหล่าศิษยานุศิษทั้งหลายก็มารวมกันมากมาย ส่วนตัวที่เข้าไปได้เพราะมีเพื่อนอยู่คนนึง เป็นร่างทรงพระแม่กาลี เราก็เฉย ๆ เชื่อในเองค์เทพ แต่ไม่เชื่อในตัวเพื่อน เพราะอะไรมันเป็นความรู้สึกส่วนตัวประมาณนั้น


พอได้เวลาลั่นกลองอย่างกับออกรบ เสียงเพลงเสียงดนตรีขึ้นมาปั๊บ จะมีต้นเสียงขับขานเพลงประจำเทพองค์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น \"ขอเชิญพระแม่อุมามหาเทวีลงมา ณ บัดนี้\" พอพูดจบเท่านั้นแหล่ะ ร่างแม่อุมาทั้งหลายแห่กันมาล้อมวงรำและแสดงท่าทางต่าง ๆ มากมาย ที่น่าตลกคือ แม่อุมาลงทรงพร้อมกันยี่สิบกว่าคน แถมแต่ละคนยังถามสารทุกสุขดิบกันด้วยว่า \"เป็นอย่างไรบ้างท่าน สบายดีมั๊ย\" ก็ตัวเองต่างเป็นแม่อุมา ดั๊นนน... มาถามว่าตัวเองสบายดีมั๊ย


อีกเรื่องนึงที่แปลกคือว่า ในแต่ละรอบเทพแต่ละองค์จะต้องลงมาประทับ พอดีผมสังเกตุเจ๊กระเทยอ้วนอยู่คนนึง ตัวอ้วน ๆ นะ เห็นลงประทุกเทพเลย ตั้งแต่ แม่อุมาเทวี, แม่กาลี, ท้าวเวสสุวรรณ, และตอนที่ผมเอะใจ แกลงประทับ \"กินรีเล่นน้ำอยู่\" โอ้โห้ ... ตัวอย่างกะผีเสื้อสมุทร ประทับองค์กินนรีเล่นน้ำ จะบ้าตาย ที่สำคัญเพื่อนผมเป็นกระเทยเหมือนกัน หุ่นก็ไล่ ๆ กับแม่กินนรียักษ์ที่เล่นน้ำอยู่นั่นแหล่ะ มันหันมาบอกผมว่า \"โถ ...เวร เมื่อกี้ ...ยังเห็นมันวิดหม้อพะโล้หลังบ้านเจ้าภาพอยู่เลย นี่ร่อนลงมาเล่นน้ำกะเค้าได้อีกนะ\" เท่านั้นแหล่ะผมกลั้นขำไม่ออกเชียว ขอบอกว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย และยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้ลบหลู่องค์เทพ แต่ไม่เชื่อในตัวร่างทรงจอมปลอมเหล่านั้น


บอกได้เลยครับว่าคนที่เป็นร่างทรง ให้ \"เจ้าเข้าทรง\" จริง ๆ นั้นมีน้อยมาก เนื่องจากคนที่มีคุณสมบัติดังนี้ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไป เพราะเป็นกำหนดที่ให้เกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้จริง ๆ บางคนถึงกับอาภัพคู่ คือจะมีคู่ไม่ได้ เด็ดขาด บางคนห้ามดื่มเหล้า มิเช่นนั้นจะมีอันเป็นไป บางคนห้ามเดินลอดคาน ทุกอย่างที่เป็นขื่อเป็นคาน เดินลอดไม่ได้ มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่ยากลำบากมากที่จะเข้าใจได้แต่คน ๆ นั้นจะรู้อยู่แก่ใจดี ว่าเกิดมาเพื่ออะไร ทำอะไรได้มากแค่ไหน มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ๆ


แต่ก็ว่าไม่ได้สำหรับความเชื่อของคนทั่วไป บางคนก็งมงายจนไร้เหตุผล เรียกคนประเภทนี้ว่า \"สุดโต่ง\" คือความดื้อรั้นจนถึงที่สุด ไม่เคยศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้ หลงงมงาย คนกลุ่มนี้บอกได้คำเดียวว่า กว่าจะรู้สึกตัวก็คงสายเกินไป


โก้เยาวราช

การที่จะทรงเจ้า เข้าทรง


ที่สำคัญ จะต้องถือศีล ห้า อย่างต่ำ


จะต้องมีสมาธิ ต้องมีจิตใจที่บริสุทธิ์


ต้องปฏิบัติดีชอบ 


อย่างนั้นเรียกงัยก็ไม่มาหลอก


อิอิ


ทำยากนะครับ


แค่ปลุกพระจับพลังทำให้ได้ก่องเหอะจะมาเข้าทรง


อิอิ กว่าจะทำได้ต้องสวดมนต์ตั้งจิตตั้งนาน


หรือไม่ลองจับกุมารทองว่ามีพลังไหม ยังทำยากเลยนะ


กุมารหลวงพ่อแย้มแรงมากนะครับ เคยละอิอิ สุดยอด


แต่ทรงไม่ได้นาน


เพราะพวกนี้เก่งดึงไม่ได้นานอิอิ ต้องใช้สมาธิ


มีไรก็แลกเปลี่ยนความรุ้ได้นะครับ


แต่ไม่ได้ให้งมงายนะครับ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล


คนดีก็มี คนทำเสียมีมากกว่าอิอ ผลประโยชน์นะครับ

อัศม์เดช


คนละเรื่องแล้วจ้า คุณโก้เยาวราช

อัศม์เดช


"เจ้าเข้าทรง" หมายถึงการถือกำเนิดของแต่ละบุคคลที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ส่งลงมา ไม่ใช่ว่าใครก็จะเรียกเจ้ามาทรงได้ ยกตัวอย่างเช่น พระวิษณุเทพแบ่งภาคลงมาจุติ เป็นคน 10 คน เหมือนการหว่านเมล็ดพืชอย่างที่น้องริชชี่บอก 9 คนถูกเลี้ยงในสังคมที่ไม่เข้าหาพระธรรม ไม่รู้เรื่องการปฏิบัติใด ๆ คนผู้นั้นก็จะไม่สามารถสื่อสารกับพระวิษณุได้ ตรงกันข้ามกับคนอีก 2 คนที่ถูกเลี้ยงและแวดล้อมมาในสังคมที่ดี ปลุกจิตสำนึกตัวเองได้ คนทั้ง 2 ก็จะสามารถสื่อสารกับท่านได้ และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ตามความเหมาะสม โดยที่บุคคลที่ถูกส่งมานี้จะทราบดีว่าตนทำอะไรได้มากแค่ไหน และการที่พระวิษณุจะประทับร่างได้ มิใช่พร่ำเพรื่อประเภทที่ว่า ลงทรงทุกวัน เวลา 17.00 - 18.00 น. อันนั้นมั่วนิ่ม ขอบเขตและวาระแตกต่างกันมาก เป็นเจตจำนงค์จริง ๆ ที่จะลงประทับ บางทีอาจจะ 1 ปี มีครั้งเดียวด้วยซ้ำ ส่วนการช่วยเพื่อนมนุษย์นั้น จะเป็นการสื่อสารกับท่านมากกว่า


ยกตัวอย่างเช่น ผู้ถือศีลบริสุทธิ์ท่านหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ) ท่านมีไม้กายสิทธิ์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตอยู่ในครอบครอง ท่านว่าเป็นเพราะชะตากำหนดมาให้ได้รับสิ่งนี้ เวลาที่ท่านรักษาคนจะใช้ไม้กายสิทธิ์กดจุดต่าง ๆ ตามร่างกาย สามารถรักษาได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับว่ากรรมเวรทำกันมาเช่นไร บางคนก็เพียงทุเลาแต่รักษาให้หายขาดไม่ได้ ท่านว่าอะไรที่ยากลำบากมากเกินกำลังท่าน ก็จะต้องเข้าสมาธิเพื่อถอดจิตไปถามสมเด็จท่านด้วยตัวเอง กรณียอย่างนี้ถือเป็นคนที่ทำจริงอย่างถุกต้อง


ที่ว่า "คนทรงเจ้า" นั้นหมายถึงผู้ที่แอบอ้าง ว่าตนมีองค์เทพต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเริ่มจากคนที่จิตอ่อน ไปดูดวงสำนักไหนมา แล้วเค้าทักว่ามีองค์ ก็อุปโหลกตัวเองว่า ข้านี้มีองค์เทพ บางคนจิตจดจ่อมากก็แสดงอาการต่าง ๆ ออกมา ทั้งที่รู้ตัวอยู่แล้วทุกอย่าง แต่ทำบ้าไปงั้นเอง วิทยาศาสตร์เรียกกลวิธีนี้ว่า "การสะกดจิตตนเอง" (Self Hypnotism) พอเริ่มประกอบเป็นอาชีพก็จะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้นเป็นเรื่อง ๆ ไป ถามว่าเป็นข้อดีหรือไม่ ตอบได้เลยว่าใช่ เพราะจะเป็นการบังคับจิตใจของคน ๆ นั้นให้กระทำแต่ความดี แต่ถ้าถามว่าบาปหรือไม่ ก็ตอบได้เลยว่าใช่อีกเช่นกัน เพราะหลอกลวงในศรัทธาของชาวบ้าน โดยที่ตนเองไม่ได้มีสิทธิ์กระทำในสิ่งนั้น ๆ โดยถูกต้อง


สิ่งเหล่านี้อยู่ในคำจำกัดความที่ว่า คนทรงเจ้า และ เจ้าเข้าทรง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการติดต่อกับกุมารทอง หรือการติดต่อวิญญานโดยตรง สิ่งที่เราพยายามสัมผัสกับพลังของกุมารนั้น ขอใช้คำว่า การสื่อสารด้วยจิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดีกว่า ซึ่งคนปฏิบัติธรรม ถือศีล และวิปัสนาจนถึงฌานระดับหนึ่งก็สามารถทำได้ สิ่งนี้เรียกว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนพึงกระทำได้ หากแต่ว่าการที่เจ้าเข้าทรงนั้น ต้องเป็นผู้ที่ถูกเลือกโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องการผูกพันธ์กันในภพภูมิ ดังนั้นจึงถือว่าถูกต้อง

JACKJILL

อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวผมครับ มีเพื่อนคนหนึ่งไปเปิดเนตร อยากเห็นผี อยากเข้าททรง ตอนนี้ต้องเข้าโรงพยาบาลโรคจิตครับ ผมก็ไม่รู้หลอกว่าเค้าเห็นรึเปล่า แต่ที่เห็นไปหาหมดบำบัดจิตเดือนละ 1ครั้ง เห็นแล้วกินยาอีกเป็นกำๆ เลยเตือนเพื่อนๆอย่าอุตริ ริไปทำอะไรที่ไม่สมควร ที่มนุษย์ทั่วไปเค้าไม่ทำกัน

โก้เยาวราช

เห็นด้วยครับอิอิ

jack jill

ร่างทรงส่วนใหญ่ ที่เค้าเล่ามา เทพหรือเทพเจ้าจะเป็นคนเลือก อันนี้มีความรู้ไม่มากครับ แล้วแต่ชะตาแต่ละคนเทพเป็นคนเลือกและกำหนดครับ อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ แต่เคยไปงานเข้าทรงที่ภูเก็ตมา เห็นแล้วทึ่งครับทำได้งั๊ยอ่ะ

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

 


 หน้าแรก  ประวัติ  เรื่องเล่า  กุมารทอง  อื่นๆ  รวมรูปภาพ  เว็บบอร์ด

 เสริมดวงออนไลน์ By jack kumanthong

 www.facebook.com/jackkumanthong

 
view